ผิวเผินที่สุดเมื่อกล่าวถึง “ความฝัน” โดยทั่วไปมักหมายถึงอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ที่ผ่านเข้ามาในสมองในห้วงยามของการนอนหลับ ซิกมันด์ ฟรอยด์ นักจิตแพทย์แห่งยุคสมัย มองว่าว่าความฝันคือแรงปรารถนาที่ไม่อาจเป็นไปได้ ที่ถูกฝังไว้ในส่วนลึกที่สุดของจิตใต้สำนึก และสะท้อนออกมาในรูปของความฝันเพื่อปลดปล่อย เยียวยา ขณะนอนหลับ ในแง่มุมนี้ “ความฝัน คือฝัน ไม่มีจริง และไม่สามารถเกิดขึ้นได้”

ทว่าในทางสังคมวิทยา ความฝันถือเป็น “ปรากฏการณ์ทางสังคม” และ “พลังงาน” แบบหนึ่งที่สะท้อนผ่านปัจเจกบุคคล กลุ่ม สังคม ชุมชน องค์กร ฯลฯ ที่เป็นจุดเริ่มต้นหรือรากฐานสำคัญของการสร้างสรรค์/ รังสรรค์ นวัตกรรม “สิ่งใหม่” ที่อาจหมายถึงการรังสรรค์ชีวิตที่ดีกว่า ความเป็นมนุษย์ที่ได้รับการปลดปล่อย ความเสมอภาค เท่าเทียม อุดมคติ สังคมใหม่ที่เป็นไปได้ การเติบโต ก้าวหน้า การพุ่งทะยานไปข้างหน้า เป็นต้น
ความฝันในทางสังคมวิทยา จึงอยู่ในสภาวะ “ตื่น-ตื่นรู้” สัมพันธ์กับระบบจิตสำนึก โครงสร้างอารมณ์ความรู้สึก การเคลื่อนไหวและการปฏิบัติการ เพื่อทำให้ทุกสิ่งฝันเกิดขึ้นได้จริง มีความเป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม การก่อรูปของความฝันในระดับสังคม ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเลื่อนลอย ไม่มีที่มาที่ไป ไร้ทิศทาง ปราศจากเป้าหมายแต่อย่างใด หากสัมพันธ์กับความต่อเนื่องของขอบเขตแห่งปณิธาน ความคิด ความเชื่อ อุดมคติ อุดมการณ์ จินตนาการ แรงบันดาลใจ เจตจำนงค์ และความมุ่งมั่น” ข้าพเจ้าเรียกสิ่งนี้ว่า “จักรวาลความฝัน”

จักรวาลกว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด ความฝันกว้างไกลไม่มีขีดจำกัด
โลก-มนุษย์-ตัวเรา เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล จักรวาลอยู่ในตัวเรา ดังนักดาราศาสตร์คนหนึ่งว่าไว้อย่างนั้น
มีแต่ฝันอันยิ่งใหญ่เท่านั้น ที่จะกระตุ้นพลัง-จุดประกายชีวิต [Only big dreams have the power to move the minds] ให้พุ่งทะยาน เร่งรุดไปข้างหน้า ทำให้จักรวาลขยายกว้างออกไปเป็นอนันตกาล
ความฝันเดินทางไปกับเราเสมอ...
ในระดับองค์กร “การสร้างความฝันร่วม” และ “การร่วมสร้างความฝัน” ในความหมายของการแจ่มกระจ่าง แจ้งชัดในวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ จิตสำนึก และแรงปรารถอันกล้าแกร่ง ที่จะไปให้ถึงซึ่งฝันนั้น เป็นจุดเริ่มต้นและสนามของความร่วมมือในการสร้างความแข็งแกร่ง เติบโต ก้าวหน้าให้เกิดขึ้นกับองค์กร
จากมือสู่มือ...จากรุ่นสู่รุ่น...จากยุคสู่ยุค...ต่อเนื่อง โยงใย ไม่สิ้นสุด
“วันนี้มหาวิทยาลัยทักษิณ ได้สะสมก้อนหินไว้มากพอที่จะสร้างปราสาทอันงดงาม ทว่าก้อนหินจะยังเป็นก้อนหิน ตราบเท่าที่เราไม่ฝันถึงปราสาทอันตระการและลงมือสร้าง”
ข้าพเจ้ากล่าวไว้ตอนหนึ่งในช่วงปาฐกถา “TSU in Becoming : บนเส้นทางแห่งการเติบโต” ในวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัย 1 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา สดๆ ร้อน ๆ
“ถึงวันนี้ข้าพเจ้ามั่นใจ ด้วยฝันใหญ่ ฝันร่วม พลัง ศักยภาพ ความสามารถ ความร่วมมือ น้ำหนึ่งใจเดียว และเกลียวความสัมพันธ์ จะทำให้มหาวิทยาลัยทักษิณ เติบโต แข็งแกร่ง และแข็งแกร่ง”
ข้าพเจ้าปลุกเร้าพลัง อีกรอบ ในคราเดียวกัน


มากไปกว่านั้น จักรวาลความฝันของมหาวิทยาลัย ยังหมายถึงการส่งมอบความฝันสู่สังคม และทำให้สังคมร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างฝันนั้น ไปพร้อมกันด้วย
ให้ความฝันเดินทาง ให้มั่นใจ
ประกาศชัย
วันพรุ่งนี้เป็นของเรา...มหาวิทยาลัยทักษิณ
...................................................................................................
รองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์
อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ