นักวิจัย ม.ทักษิณ พัฒนาอาหารเสริมโพรไบโอติกสำหรับชันโรง ลดการล่มสลายของรัง เพิ่มคุณภาพน้ำผึ้ง ต่อยอดสู่ธุรกิจชุมชน

นักวิจัย ม.ทักษิณ พัฒนาอาหารเสริมโพรไบโอติกสำหรับชันโรง ลดการล่มสลายของรัง เพิ่มคุณภาพน้ำผึ้ง ต่อยอดสู่ธุรกิจชุมชน

25 ส.ค. 68 209

นักวิจัยมหาวิทยาลัยทักษิณ  พัฒนา “อาหารเสริมโพรไบโอติกสำหรับชันโรง”  ลดการล่มสลายของรัง เพิ่มคุณภาพน้ำผึ้ง และต่อยอดสู่เศรษฐกิจชุมชน

 “ชันโรง” แมลงเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สำคัญและมีพลังต่อการขับเคลื่อนเกษตรนวัตกรรมภาคใต้ งานวิจัยชันโรงของมหาวิทยาลัยทักษิณมุ่งเน้นการเสริมสร้างห่วงโซ่คุณค่าของชันโรงในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งมีความเหมาะสมทั้งด้านภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพ “ชันโรง” ไม่เพียงเป็นแมลงผสมเกสรที่ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรเท่านั้น แต่ยังสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้ง พรอพอลิส และไขผึ้ง ที่สามารถต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม รวมถึงอาหารเสริมที่มีมูลค่าสูง งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยทักษิณจึงมุ่งเสริมสร้างกลไกการพัฒนานวัตกรรมร่วมกับชุมชน เพื่อยกระดับธุรกิจชุมชนสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนในระดับท้องถิ่นและการแข่งขันในตลาดสากล

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วันกุศล ชนะสิทธิ์ และทีมวิจัย ผศ.ดร.มณฑล เลิศวรปรีชา ผศ.ดร.ศุภชัย นิติพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมดิจิทัล มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ได้พัฒนา “อาหารเสริมโพรไบโอติกสำหรับชันโรงอิตาม่า” เพื่อเสริมสร้างสุขภาพ ลดการล่มสลายของรังจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเพิ่มศักยภาพการผลิตเชิงพาณิชย์ โดยผลิตในรูปแบบของอาหารเสริมพร้อมใช้งานที่มีส่วนผสมของจุลินทรีย์โพรไบโอติกสายพันธุ์ดีที่คัดแยกได้จากลำไส้ชันโรงอิตาม่า ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยส่งเสริมสุขภาพ กระตุ้นภูมิคุ้มกันและเพิ่มการวางไข่ของชันโรง จากการทดลองใช้ในฟาร์มพบว่า ชันโรงมีการผลิตน้ำผึ้งเพิ่มขึ้น อีกทั้งคุณภาพน้ำผึ้งก็ดีขึ้นด้วย โดยเฉพาะการเพิ่มระดับ “น้ำตาลทรีฮาลูโลส (Trehalulose)” ซึ่งเป็นน้ำตาลที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า “น้ำตาลทั่วไป” เพราะช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านจุลชีพ คุมระดับน้ำตาลในเลือด และลดการเกิดฟันผุได้ จึงเป็น “จุดขายเชิงสุขภาพ” ของน้ำผึ้งชันโรงที่ทำให้แตกต่างและมีมูลค่าสูง ที่สำคัญ ต้นทุนการใช้อาหารเสริมโพรไบโอติกเพียง 15–20 บาท/รัง/เดือน แต่เกษตรกรสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 750–1,250 บาท/รัง/ปี ถือเป็นนวัตกรรมต้นทุนต่ำแต่เพิ่มมูลค่าสูง เหมาะสำหรับการนำไปใช้จริงในฟาร์มเพื่อการผลิตเชิงพาณิชย์และสอดคล้องกับแนวทางเกษตรปลอดภัยและยั่งยืน

นอกจากงานวิจัยเชิงวิชาการ ทีมวิจัยยังได้ขยายผลสู่การอบรมเกษตรกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 100 คน ภายใต้หัวข้อ “การเตรียมความพร้อมสู่มาตรฐานน้ำผึ้งชันโรง” พร้อมติดตามผลการใช้จริงในกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เป็นเวลา 5 เดือน พบว่า พื้นที่เซลล์ไข่เฉลี่ยต่อรังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงสุขภาพรังที่แข็งแรงขึ้น และล่าสุด โครงการ "การพัฒนาอาหารเสริมโพรไบโอติกสำหรับชันโรงอิตาม่าเพื่อส่งเสริมสุขภาพและลดการล่มสลายของรังอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" คว้ารางวัล “Silver Award” จากเวที Thailand Research Expo 2025 ยืนยันศักยภาพของงานวิจัยไทยที่พร้อมต่อยอดเชิงพาณิชย์ และช่วยยกระดับการเลี้ยงชันโรงสู่การเกษตรยั่งยืนท่ามกลางความท้าทายของสภาพภูมิอากาศโลก

 

ขอบคุณ: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วันกุศล ชนะสิทธิ์ คณะวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมดิจิทัล

ข่าว: งานสื่อสารองค์กร  สำนักงานมหาวิทยาลัย