สาย “มู” ต้อง ห้าม พลาด! สถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ ชวนนั่งรถรางไปปักหมุดจุด "มู" รอบเกาะยอ เติมพลังชีวิต เสริมสิริมงคลต้อนรับสงกรานต์ กับเส้นทางสายวัฒนธรรมและความเชื่อ
“เกาะยอ” เกาะกลางทะเลสาบสงขลาตอนล่าง ที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นไหล่เขาและที่ราบเชิงเขา เป็นชุมชน ตำบลเล็กๆ ที่มีความโดดเด่นทั้งวิถีชีวิต ภูมิทัศน์ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม มีของดีพื้นถิ่นมากมายที่หลายคนคุ้นหู คุ้นตา เช่น ผ้าทอพื้นเมืองลวดลายเป็นเอกลักษณ์ ปลากะพงสด รสชาติดี ผลไม้ขึ้นชื่ออย่างจำปาดะ และละมุด (สะหวา)
วันนี้ WE TSU จะพาไปสัมผัสเกาะยอในอีกมิติ กับกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม “มู...มูเตลูเกาะยอบ้านเรา” ของสถาบันทักษิณคดีศึกษา ที่จะชวนนั่งรถรางชมวิวชิลล์ๆ ไปสักการะ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำถิ่นเกาะยอที่ชาวบ้านนับถือ เพื่อเติมพลังชีวิต เสริมสิริมงคล เอาฤกษ์เอาชัยต้อนรับปีใหม่ไทย เอาใจทั้งสายมู สายบุญ และสายวัฒนธรรม
ก่อนออกเดินทาง ผู้ร่วมทริปจะได้รับของที่ระลึกสุดพิเศษ เป็นสมุด Passport to Koh Yo Culture สำหรับปั๊มเช็คอินในแต่ละจุด พร้อมเข็มกลัดสามสมเด็จเจ้าแห่งลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา สมเด็จเจ้าเกาะยอ สมเด็จเจ้าเกาะใหญ่ และสมเด็จเจ้าพะโคะ หรือหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด สิ่งศักดิ์สิทธิ์สัญลักษณ์แห่งความเชื่อที่มั่นคงของชาวเกาะยอ
ถ้าพร้อมแล้ว.... ไปกันเลย!!!
ปักหมุด จุดแรก.... “วัดเขาบ่อ”
สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2477 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 7 เป็นวัดแห่งสุดท้ายของตำบลเกาะยอ ที่รายล้อมไปด้วยภูเขาและทะเลสาบสงขลา เริ่มต้นสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในถ้ำมหัศจรรย์ แล้วไปขอพร ขอเลข กับรูปปั้นช้างหินแกะสลักซึ่งเป็นที่เลื่องลือเรื่องการบนบานศาลกล่าว โดยเฉพาะโชคลาภและ“เลขเด็ด” ที่มักสมหวังแทบทุกราย
ปักหมุด จุดต่อมา.... “วัดโคกเปี้ยว”
แวะสักการะ พญานาค 7 เศียร “พ่อปู่พญาภุชงค์นาคราช” และ “แม่ย่าทองคำ” (พญานาคินีเทวีศรีปางตาล) ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นผู้คุ้มครองทะเลสาบ ให้พรในเรื่องความปลอดภัย มั่นคง และความรัก
วัดโคกเปี้ยว วัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของเกาะยอ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบสงขลา สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ภายในวัดโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น และมีต้นละมุดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ถือเป็นจุดเช็คอินสุดขลังแห่งใหม่ของนักเดินทางสายมู
ปักหมุด จุดที่สาม.... “วัดแหลมพ้อ”
ขอพร สักการะพระพุทธรูปปางปรินิพพานองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งตั้งตระหง่านริมทะเลสาบสงขลา พร้อมชมความงดงามของอุโบสถและหอระฆัง สถาปัตยกรรมในสมัยรัชกาลที่ 3
ปักหมุด จุดสุดท้าย.... “วัดท้ายยอ”
วัดแห่งแรกบนเกาะยอ โดดเด่นและมีเสน่ห์ด้านสถาปัตยกรรมและความเก่าแก่
วัดท้ายยอ สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ถึงช่วงต้นกรุงธนบุรี (ประมาณ พ.ศ. ๒๓๑๑) ชื่อเดิมคือ "วัดคงคาวดี" แต่ชาวบ้านมักจะเรียกกันติดปากว่า "วัดท้ายเสาะ" ตามชื่อของหมู่บ้านเก่าแก่ของเกาะยอ ต่อมาเรียกกันว่า "วัดท้ายยอ" ตามชื่อเกาะยอ มีโบราณวัตถุที่โดดเด่นทางสถาปัตยกรรม คือ หอระฆัง และกุฏิเจ้าอาวาสที่เป็น "กุฏิแบบเรือนไทยปั้นหยา" อายุประมาณ 200 ปี ด้านหลังของวัดท้ายยอเป็นที่ตั้งของเขาพิหารหรือเขาวิหาร ซึ่งประดิษฐานเจดีย์ทรงลังกา อายุประมาณ 240 ปี มีบันไดสำหรับขึ้น – ลง จำนวน 150 ขั้น เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ความศรัทธาอันมั่นคงของชาวเกาะยอ
ภาพ : https://clib.psu.ac.th/southerninfo/content/1/303335d3
ตลอดเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชนลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาแห่งนี้ นอกจากการไปไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว คุณจะได้สัมผัสวัฒนธรรม วิถีชีวิต อาหารพื้นบ้านของกินพื้นบ้าน และธรรมชาติริมทะเลสาบที่เงียบสงบ เรียกว่าครบจบ ทั้งอิ่มบุญ อิ่มใจในคราวเดียว
.....................................................…
จิราพร ทวีตา
งานสื่อสารองค์กร สำนักงานมหาวิทยาลัยทักษิณ
แหล่งข้อมูล : สถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ
: https://clib.psu.ac.th/southerninfo/content/1/303335d3